สาวนักธุรกิจเมืองนนท์ พร้อมคนใจบุญ เข้าพบ พนง.สอบสวน บก.ป. ให้สอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณี หญิงสาว ลงเฟซบุ๊ก รับบริจาคช่วยเหลือสุนัขจรจัดที่บาดเจ็บ แต่กลับพบพิรุธการเบิกเงิน ไม่มีการแจกแจงรายรับ-รายจ่าย ...
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 59 น.ส.สุพิชฌาย์ ธนอัจฉรานันท์ อายุ 39 ปี อาชีพนักธุรกิจ ชาว จ.นนทบุรี พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริจาคเงินช่วยเหลือสุนัขจรจัดที่บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยกว่า 10 คน เข้าพบ ร.ต.ท.นเรศ บุญดำเนินพานิช รอง สารวัตร (สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อขอให้สอบสวนหาข้อเท็จจริง กรณีที่ หญิงสาวรายหนึ่ง ได้ลงประกาศผ่านทางเฟซบุ๊ก เปิดรับเงินบริจาคช่วยเหลือสุนัขจรจัดที่บาดเจ็บหรือเจ็บป่วย โดยอ้างว่า จะนำเงินดังกล่าวไปใช้รักษาสุนัข แต่หลังจากโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของหญิงดังกล่าว กลับพบข้อพิรุธเกี่ยวกับการพาสุนัขไปรักษา หรือการเบิกเงินไปใช้จ่ายต่างๆ เนื่องจากไม่มีการแจกแจงรายรับ-รายจ่าย จึงเกรงว่าเงินบริจาคจะถูกใช้โดยไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ผู้บริจาค
น.ส.สุพิชฌาย์ กล่าวว่า รู้จักกับหญิงสาวรายนี้ จากกลุ่มเพื่อน ซึ่งทราบว่ามีหน้าที่ช่วยเหลือนำสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บ หรือมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ไปส่งสถานพยาบาล เมื่อมีการเปิดรับเงินบริจาคเพื่อการนี้ ตนจึงยินดีโอนเงินไปให้โดยมีการแจ้งว่าค่าใช้จ่ายสำหรับนำสุนัข 1 ตัว ส่งไปรักษาที่สถานพยาบาล นั้น อยู่ที่ 15,000-20,000 บาท
ทั้งนี้ น.ส.สุพิชฌาย์ กล่าวอีกว่า หากสุนัขตัวไหนที่ป่วยหนัก ทางหญิงสาวดังกล่าว จะแจ้งว่า สัตวแพทย์ที่รักษา วินิจฉัยโรคแล้วอาจต้องรักษาต่อด้วยการผ่าตัด หรือใช้ยาบางชนิดกับน้องหมา ก็จะขอรับเงินบริจาคเพิ่มเติมอีก ซึ่งกว่า 1 ปีที่ผ่านมา พบว่าได้ดูแลสุนัข 6-7 ตัว มีผู้บริจาคเงินช่วยเหลือ 200-300 คน แต่กลับมาทราบภายหลังว่า หญิงสาวคนนี้ ไม่ได้ใส่ใจดูแลรักษาสุนัขให้ดีตามสมควร มีการปล่อยให้สุนัขนอนแช่อุจจาระหรือปัสสาวะ บางตัวที่ส่งไปรักษาแล้วเสียชีวิตก็ไม่ได้ติดตามผล และเมื่อสุนัขเสียชีวิต ยังมีการประกาศขอรับเงินบริจาคทั้งที่สุนัขตัวนั้นตายไปแล้ว
เมื่อทราบเรื่อง จึงพยายามติดต่อกับหญิงสายรายนี้ ขอให้แจกแจงค่าใช้จ่ายต่างๆ กับเงินบริจาคที่ได้รับไป โดยคาดว่าน่าจะมีผู้ใจบุญบริจาคเงินให้แล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ นอกจากนี้ยังพบข้อพิรุธที่น่าสงสัย เนื่องจากได้นำเงินไปซื้อสิ่งของ หรือใช้ทำอะไรอย่างอื่นที่ผิดวัตถุประสงค์ อันอาจเข้าข่ายฉ้อโกง จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อขอให้มีการสอบสวนกรณีดังกล่าว
“ที่ผ่านมา หลายๆ คน ต่างเชื่อถือหญิงคนนี้ เพราะเขาเคยไปออกรายการทีวีชื่อดังรายการหนึ่ง พิธีกรที่สัมภาษณ์ออกรายการดังกล่าวก็เป็นพิธีกรผู้มีชื่อเสียง ยิ่งทำให้ทุกคนยิ่งเชื่อใจอย่างไม่ลังเล ว่าเธอเป็นผู้ใจบุญ เมตตาต่อน้องหมา ก่อนจะมาพบข้อพิรุธน่าสงสัยในภายหลัง ซึ่งอาจจะมีคนอื่นร่วมกันวางแผนเพื่อหลอกเอาเงินบริจาคตรงนี้ โดยอาศัยจุดอ่อนเรื่องความสงสารน้องหมาที่เจ็บป่วยเป็นเครื่องมือ” น.ส.สุพิชฌาย์ กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.นเรศ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ในเบื้องต้น ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาสั่งการอีกครั้ง.
ขอบคุณ ไทยรัฐออนไลน์