ชาวเน็ตแชร์เรื่องราวของป้าคนหนึ่งใน ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา รับเลี้ยงสุนัขจรจัดไว้ในบ้านเกือบ 100 ตัว มาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี แต่ปัจจุบันกำลังประสบกับปัญหาไม่มีเงินใช้จ่ายซื้ออาหารให้สุนัขอย่างเพียงพอ จนต้องมาขอรับบริจาคเศษอาหารเหลือจากวัด และจากชาวบ้านข้างเคียง มาเพื่อเลี้ยงสุนัขไม่ให้อดตาย ซึ่งทำให้ชาวเน็ตรู้สึกเห็นใจกันเป็นอย่างมาก

(9 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 10 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านที่ถูกชาวเน็ตแชร์บอกต่อกันถึงเรื่องราวนี้ พบว่าบ้านหลังดังกล่าว อยู่ในบริเวณพื้นที่กว่า 2 ไร่ มีกำแพงกั้นสู่เกือบ 2 เมตร ขณะที่ประตูทางเข้าบ้าน เป็นลูกกรงที่มีสังกะสีปิดไว้ในระดับคอ เพื่อไม่ให้สุนัขในบ้านลอดออกมาได้

และได้พบกับ 2 ตายาย คือนางสุภาวดี หอมวิเศษ อายุ 55 ปี และนายปรุง บำรุงกิจ อายุ 77 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งได้พาเข้าไปชมภายในบ้าน ที่มีสุนัขจรจัด หลายขนาดอาศัยอยู่ทั่วบริเวณ พร้อมกันนี้ยังมีกระท่อมขนาดใหญ่ 1 หลัง ปลูกอยู่ด้านหน้าบ้าน ไว้สำหรับให้สุนัขอาศัยอยู่ และใช้เป็นห้องครัวในการทำอาหารให้สุนัข โดยมีเตาถ่าน 3 เตา ที่กำลังต้มกระดูกไก่ และหุงข้าว ตั้งไว้อยู่ตลอดเวลา ขณะที่โดยรอบกระท่อม ก็จะมีต้นไม้ และเพิงเล็กๆ ตั้งไว้หลายจุด เพื่อให้สุนัขหลบแดดหลบฝนอยู่ได้ พร้อมกับมีชามข้าว ชามน้ำ ตั้งไว้จำนวนมากด้วย

ทั้งนี้ นางสุภาวดี หอมวิเศษ หรือป้าอุ๊ เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ตนนั้นมีอาชีพเป็นลูกจ้างชั่วคราว อยู่ในกองบิน 1 ค่ายสุรนารี ซึ่งเดิมทีเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ตนเลี้ยงสุนัขไว้ 3 ตัว เพราะเป็นคนรักสุนัขมาก ต่อมาพบว่าในพื้นที่ ต.โพธิ์กลาง ได้มีคนนำสุนัขไปทิ้งข้างทาง และบริเวณป่าละเมาะเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกตัวจะอยู่กันแบบอดๆ อยากๆ จึงพบว่าบ่อยครั้งที่เข้าไปขโมยกินเปิด กินไก่ ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ จนถูกตีขาหัก หรือตายจำนวนมาก

จากนั้นตนจึงเริ่มนำพวกมันมาเลี้ยงไว้ในบ้าน โดยนำเงินส่วนตัวจากอาชีพลูกจ้าง มาซื้ออาหาร ทั้งอาหารเม็ด โครงกระดูกไก่ และข้าวสาร รวมทั้งใช้จ่ายในการนำไปรักษาโรคต่างๆ ให้พวกมันด้วย ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ก็เริ่มมีสุนัขเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนกระทั่งปัจจุบัน มีสุนัขรวมกันอยู่ทั้งหมดกว่า 90 ตัว โดยทุกตัวจะปล่อยให้อยู่อย่างอิสระ ไม่มีการขังไว้ในกรง ซึ่งตนตั้งใจจะเลี้ยงไว้จนกว่าพวกมันจะตายทั้งหมด

ป้าอุ๊ กล่าวอีกว่า ในจำนวนสุนัขที่เลี้ยงไว้นี้ มีอยู่ 1 ตัว ที่มีประวัติน่าสงสารมาก มันชื่อเจ้าโกโก้ เป็นสุนัขพันธุ์ทาง เพศผู้ สีน้ำตาล-ขาว อายุประมาณ 5 ปี ซึ่งมีสภาพหลังหัก ขาหลังทั้ง 2 ข้างเสียศูนย์ เมื่อเดินต้องคลานค่อมๆ อย่างน่าเวทนา โดยก่อนหน้านั้นประมาณช่วงปลายปี 58 มันเคยอาศัยอยู่หน้าหอพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.โพธิ์กลาง ซึ่งมักจะมีสาวพริตตี้นำเศษอาหารมาให้มันกินบ่อยๆ ทำให้มันรู้สึกผูกพันเหมือนเป็นเจ้าของ

ต่อมาวันหนึ่งพริตตี้คนดังกล่าวถูกคนร้ายงัดห้องเข้าไปเพื่อจะขโมยของ และพยายามข่มขืน แต่เจ้าโกโก้ ซึ่งนอนอยู่ใกล้แถวนั้นได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของสาวพริตตี้ที่มันคุ้นเคย จึงได้กระโดดเข้าไปต่อสู้กับคนร้ายอย่างสุดชีวิต จนกระทั่งคนร้ายเห็นท่าไม่ดีหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายเจ้าโกโก้ได้ถูกคนร้ายตีจนหลังหัก หัวแตก ขาพิการ และมีเลือดอาบทั้งตัว

วันต่อมา พริตตี้คนดังกล่าวก็ย้ายหอพักหนีไปที่อื่น ปล่อยให้เจ้าโกโก้ ต้องคลานขาลาก เร่ร่อนอยู่บริเวณนั้นอย่างอดๆ อยากๆ จนกระทั่งตนไปพบเข้า จึงเก็บมาเลี้ยงไว้ที่บ้านอยู่ร่วมกับฝูงสุนัขจรจัดตัวอื่นๆ ซึ่งเจ้าโกโก้ จะเป็นสุนัขที่เชื่อง แสนรู้ และซื่อสัตย์กับเจ้าของมาก ชาวบ้านหลายคนที่รู้ประวัติของเจ้าโกโก้ถึงกับยกย่องให้มันเป็น "หมาฮีโร่" เลยทีเดียว

ถึงอย่างไรก็ตาม ด้วยความที่มีสุนัขเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ตนไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้ออาหารให้พวกมัน เนื่องจากแต่ละวันต้องหุงข้าววันละ 3 หม้อ โครงไก่ต้มให้วันละ 20 กิโลกรัม และอาหารเม็ดอีกวันละ 4 ถุงเป็นอย่างน้อย เฉพาะเงินเดือนของตนก็ไม่เพียงพอแล้ว ช่วงหลังๆ จึงตัดสินใจขอรับบริจาคเศษอาหารจากชาวบ้านข้างเคียง เพื่อนำมาเสริมไม่ให้พวกมันอดอยาก ซึ่งก็มีชาวบ้านหลายคนนำอาหารเม็ด และบริจาคเงินช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราว

สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะบริจาคเงินช่วยเหลือสุนัขจรจัดเหล่านี้ สามารถโอนเงินช่วยเหลือมาได้ที่บัญชีธนาคารทหารไทย สาขาพิบูลย์ละเอียด จ.นครราชสีมา ชื่อบัญชี นางสุภาวดี หอมวิเศษ เลขที่บัญชี 480-2-1563-4 หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่ 087-8775714 (ป้าอุ๊)

ขอบคุณ Sanook